ในโลกของคริปโตแนวคิดการใช้ wallet (กระเป๋าตังค์)อาจะสร้างความมึนงงให้ใครหลายคนได้ เพราะเราสามารถสร้าง
- Private Key หรือ keystore file กุญแจส่วนตัวที่ถูกป้องกันด้วยพาสเวิร์ด
- mnemonic phrase คือชุดของคำ ที่สามารถทำให้เข้าถึง private key หลายๆตัวได้
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างคือ
- หนึ่งบัญชีจะมีแค่หนึ่ง Private Key หรือ keystore file เท่านั้น
- การสร้าง mnemonic phrase สามารถทำให้เราควมคุมและเข้าถึงหลายๆบัญชีได้ด้วย mnemonic phrase อันเดียว
ทำไม phrase อันเดียวถึงสร้างได้มากกว่า 1 บัญชี
mnemonic phrase — หรือที่เรียกกันว่า “Hierarchical Deterministic Wallet” จะสร้างบัญชีโดยการใช้ phrase รวมกับ derivation path เพื่อสร้างบัญชี โดยใช้วิธีทางคณิตศาสตร์อันซับซ้อนที่เรียกกันว่า cryptography
อะไรคือ derivation path
โดยนิยาม derive คือ “to obtain something from a specified source.” ในบริบทของคณิตศาสตร์คือ “To obtain [a function or equation] from another by a sequence of logical steps, for example by differentiation.” อ่านแล้วงงๆ
พูดให้ง่ายคือ
กระเป๋าหนึ่งใบสามารถมีช่องใส่ของได้หลายๆช่อง การแบ่งออกเป็นช่องย่อยๆ คือ derivation path ถึงจะแบ่งออกเป็นช่องๆย่อยๆ แต่ละช่องก็อยู่ในกระเป๋าใบเดียวกันเหมือนเดิม
พูดให้ยากคือ
หน้าตาของ derivation path
m/44'/501'/0'/0'/0
ตัวเลขแต่ละตัวบอกว่า private key, public key และ ที่อยู่ของช่องย่อยและการเปลี่ยนแปลงอยู่ตรงไหน อ่านเพิ่ม ถ้าอยากได้กระเป๋าเพิ่มจาก phrase เดิมก็เพิ่มตัวเลขหลังสุดไปเรื่อย
Address #1: m/44'/501'/0'/0'/0
Address #2: m/44'/501'/0'/0'/1
Address #3: m/44'/501'/0'/0'/2
…
Address #99: m/44'/501'/0'/0'/98
ด้วยเวทย์มนต์ทางคณิตศาสตร์เลยทำให้เราสามารถ แบ่งกระเป๋าเงินเราเป็นกระเป๋าย่อยๆ โดยเริ่มต้นจาก mnemonic phrase อย่างงดงาม
Top comments (0)